‘ตลาดการเงิน’สัปดาห์นี้ ลุ้นผลประกอบการ บจ. โหวตเลือกนายกฯรอบ2

นายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า ค่าเงินบาทเปิดเช้านี้ 17 ก.ค. อยู่ที่ระดับ 34.63 บาทต่อดอลลาร์ “แข็งค่าขึ้นเล็กน้อย” จากระดับปิดสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ระดับ 34.65 บาทต่อดอลลาร์ โดยมองกรอบค่าเงินบาทสัปดาห์นี้ ที่ระดับ 34.40-35.00 บาทต่อดอลลาร์ ส่วนกรอบเงินบาทวันนี้ คาดว่าจะอยู่ที่ระดับ 34.50-34.75 บาทต่อดอลลาร์

โดยในช่วงคืนวันศุกร์ของสัปดาห์ก่อนหน้า เงินบาทเริ่มอ่อนค่าลงบ้าง ตามการรีบาวด์แข็งค่าขึ้นของเงินดอลลาร์ หลังรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคโดยมหาวิทยาลัยมิชิแกน (UofMichigan Consumer Sentiment) ออกมาดีกว่าคาด และสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินดอลลาร์พลิกกลับมาอ่อนค่าลง หลังตลาดมองเฟดใกล้ถึงจุดยุติการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย

ในสัปดาห์นี้ มองว่า ควรรอลุ้น รายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนในไตรมาส 2 พร้อมจับตาสถานการณ์การเมืองไทย (โหวตเลือกนายกฯ รอบ 2) อย่างใกล้ชิดคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

มุมมองเศรษฐกิจทั่วโลก
▪ ฝั่งสหรัฐ – รายงานข้อมูลเศรษฐกิจอาจมีไม่มากนัก ทว่าผู้เล่นในตลาดจะรอประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐ ผ่านรายงานยอดค้าปลีก (Retail Sales) เดือนมิถุนายน โดยนักวิเคราะห์มองว่า ยอดค้าปลีกอาจขยายตัว +0.5% จากเดือนก่อนหน้า หนุนโดยยอดขายรถยนต์ ตามการปรับลดราคารถยนต์ในช่วงที่ผ่านมา อย่างไรก็ดี ยอดค้าปลีกที่ไม่รวมผลของยอดขายรถยนต์และน้ำมัน (Retail Sales Ex. Auto & Gas) อาจโตเพียง +0.1%m/m ชี้ว่าผู้บริโภคฝั่งสหรัฐ ก็เริ่มปรับลดการใช้จ่ายลง โดยเฉพาะในหมวดสินค้าฟุ่มเฟือย (Consumer Discretionary) นอกเหนือจากรายงานข้อมูลเศรษฐกิจดังกล่าว ผู้เล่นในตลาดจะรอจับตารายงานผลประกอบการของบรรดาบริษัทจดทะเบียนอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะมีทั้งสถาบันการเงินและบริษัทเทคฯ ขนาดใหญ่ อาทิ BofA, Morgan Stanley, ASML, Netflix, Tesla และ TSMC เป็นต้น

▪ ฝั่งยุโรป – ตลาดจะรอติดตามรายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI อังกฤษอย่างใกลชิด เพื่อประเมินโอกาสที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) อาจเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อ +50bps เหมือนกับในรอบการประชุมก่อนหน้า โดยหากอัตราเงินเฟ้อ CPI และอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน Core CPI เดือนมิถุนายน ชะลอลงไม่มากนัก สู่ระดับ 8.2% และ 7.1% ตามลำดับ ก็อาจเปิดโอกาสที่ BOE จะเดินหน้าขึ้นดอกเบี้ย +50bps ในการประชุมเดือนสิงหาคมได้ นอกจากนี้ ผู้เล่นในตลาดจะรอติดตามถ้อยแถลงของบรรดาเจ้าหน้าที่ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) และธนาคารกลางยุโรป (ECB) เพื่อประเมินทิศทางนโยบายการเงินของธนาคารกลางทั้งสอง

▪ ฝั่งเอเชีย – ตลาดคาดว่า การฟื้นตัวเศรษฐกิจจีนยังคงไม่สดใสนัก สะท้อนผ่านอัตราการเติบโตเศรษฐกิจในไตรมาสที่ 2 ที่จะชะลอลงสู่ระดับ +0.9% จากไตรมาสก่อนหน้า จากที่ขยายตัวกว่า +2.2% ในไตรมาสแรก ซึ่งจะสอดคล้องกับรายงานข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญในเดือนมิถุนายน อาทิ ยอดค้าปลีกที่อาจโตเพียง +3.3%y/y ส่วนยอดผลผลิตอุตสาหกรรม (Industrial Production) ก็ขยายตัวราว +2.5%y/y ซึ่งเป็นการขยายตัวในอัตราชะลอลงต่อเนื่องจากเดือนก่อนหน้า ทั้งนี้ รายงานข้อมูลเศรษฐกิจจีนที่ยังไม่สดใส อาจไม่ได้กดดันตลาดการเงินจีนมากนัก เนื่องจากผู้เล่นในตลาดต่างคาดหวังว่า ทางการจีนอาจออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติม หลังการประชุม Politburo ในเดือนนี้

ส่วนในฝั่งญี่ปุ่น ตลาดจะรอจับตา รายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI เดือนมิถุนายน โดยนักวิเคราะห์ต่างประเมินว่า อัตราเงินเฟ้อ CPI อาจอยู่ที่ระดับ 3.3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน ที่ไม่รวมราคาอาหารสดและพลังงาน (Core-Core CPI) อาจชะลอลงสู่ระดับ 4.2% ซึ่งอาจยังไม่สูงพอ หรือ แนวโน้มอัตราเงินเฟ้อไม่ได้เร่งตัวขึ้นชัดเจนมากพอ ที่จะทำให้ธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ตัดสินใจปรับนโยบายการเงินให้ตึงตัวหรือเข้มงวดมากขึ้นในการประชุมเดือนกรกฎาคมนี้

▪ ฝั่งไทย – มองว่า การโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีมีแนวโน้มจะยืดเยื้อ หลังทางพรรคก้าวไกลและพันธมิตร เตรียมเสนอคุณพิธา เป็นแคนดิเดตในรอบที่ 2 ซึ่งเรามองว่า การโหวตรอบที่ 2 ก็อาจยังขาดเสียงสนับสนุนจากฝั่งวุฒิสภาพอสมควร (ไม่น้อยกว่า 50 เสียง) ซึ่งต้องติดตามว่า สำหรับการโหวตในรอบที่ 3 ทางพรรคเพื่อไทยจะเป็นฝั่งเสนอชื่อแคนดิเดตและเสนอเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแทนพรรคก้าวไกลหรือไม่

ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาดเริ่มมองว่า ถึงการโหวตเลือกนายกฯ อาจยืดเยื้อ แต่สุดท้ายก็อาจเป็นแคนดิเดตจากพรรคเพื่อไทยที่จะได้รับการโหวตเลือกเป็นนายกฯ และพรรคเพื่อไทยก็อาจเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งกรณีดังกล่าวก็อาจส่งผลดีต่อตลาดการเงินได้มากกว่าในกรณีที่พรรคก้าวไกลเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาล ดังจะเห็นได้จากล่าสุดที่นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิหุ้นไทยในวันศุกร์ที่ผ่านมาเกือบ +1.7 พันล้านบาท อย่างไรก็ดี ความไม่แน่นอนของสถานการณ์การเมืองไทย ก็อาจทำให้ผู้เล่นในตลาดไม่กล้าเปิดรับความเสี่ยงมากนัก และส่งผลให้ตลาดการเงินยังมีความผันผวนอยู่พอสมควรคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

สำหรับ แนวโน้มของค่าเงินบาท ประเมินว่า การโหวตเลือกนายกฯ จะยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งผลให้เงินบาทเคลื่อนไหวผันผวนได้ ทั้งนี้ ผู้เล่นในตลาด โดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติอาจเปิดรับความเสี่ยงสินทรัพย์ไทยต่อได้ หากผลการโหวตเลือกนายกฯ รอบที่ 2 ชี้ว่า ทางพรรคเพื่อไทยมีโอกาสเสนอรายชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในการโหวตรอบที่ 3 อนึ่ง เรามองว่า แนวต้านของเงินบาทได้ลดลงมาอยู่ในโซน 35.00 บาทต่อดอลลาร์ ขณะที่ แนวรับสำคัญจะอยู่แถว 34.30-34.40 บาทต่อดอลลาร์

ในส่วนเงินดอลลาร์นั้น เรามองว่า เงินดอลลาร์อาจกลับมาแข็งค่าขึ้นได้ หากตลาดปิดรับความเสี่ยง (Risk-Off) ในกรณีที่ผลประกอบการบริษัทจดทะเบียนออกมาน่าผิดหวัง ทั้งนี้ ควรจับตารายงานอัตราเงินเฟ้อ CPI อังกฤษ ซึ่งอาจส่งผลต่อทิศทางเงินปอนด์อังกฤษและเงินดอลลาร์ได้ โดยเงินปอนด์อาจอ่อนค่าลงได้ หากอัตราเงินเฟ้อชะลอมากกว่าคาด ทำให้ตลาดปรับลดโอกาสธนาคารกลางอังกฤษเร่งขึ้นดอกเบี้ย +50bps

เราคงคำแนะนำว่า ในช่วงที่ตลาดการเงินยังมีความผันผวนสูงจากทั้งปัจจัยการเมืองไทยและภาวะตลาดการเงินในช่วงรับรู้รายงานผลประกอบการบรรดาบริษัทจดทะเบียนในไตรมาสที่ 2 ผู้ประกอบการควรใช้เครื่องมือป้องกันความเสี่ยงที่หลากหลาย อาทิ Option เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยน

ผุดถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ “สิชล-ท่าศาลา” 31 กม. วงเงิน 847 ล้าน

ฝ่ายประชาสัมพันธ์ กรมทางหลวงชนบท (ทช.) แจ้งว่า ได้ดำเนินการศึกษาแนวเส้นทางและประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ถนนเลียบชายฝั่งทะเลภาคใต้ (Thailand Riviera) อ.สิชล และ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ระยะทางโครงการประมาณ 31 กิโลเมตร (กม.) งบประมาณค่าก่อสร้างเบื้องต้น 847 ล้านบาท ซึ่งอยู่ในแผนการพัฒนาระยะที่ 2 ในพื้นที่ จ.ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช และสงขลา เพื่อพัฒนาและเพิ่มศักยภาพการท่องเที่ยวชายฝั่งทะเลอ่าวไทย รองรับการเติบโตของ อ.สิชล และ อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราชในอนาคต

ปัจจุบันได้ศึกษาออกแบบเชิงหลักการ และ จัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) เสร็จแล้วเมื่อเดือน ก.ย. 66 อยู่ระหว่างเสนออีไอเอให้สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (สผ.) พิจารณา หลังจากเห็นชอบแล้ว จะเสนอขอตั้งบประมาณจ้างรายละเอียดในการออกแบบต่อไป

แนวเส้นทางโครงการมีจุดเริ่มต้นเชื่อมต่อกับ ทล.401 บริเวณ กม.ที่ 242+500 บริเวณวัดปากด่าน ตามแนวถนนทางเข้าบ้านคงคาวดี จากนั้นเลี้ยวไปทางบริเวณหมู่ 2 ต.เสาเภา แล้วไปทางถนนเลียบชายทะเล ผ่านคลองเสาเภา แนวเส้นทางจะเลี้ยวขนานแนวชายฝั่งแล้วออกแบบเป็นสะพานข้ามคลองหิน ถัดมาจึงออกแบบเป็นสะพานข้ามคลองกลาย จนไปบรรจบกับถนนทางหลวงชนบทสาย นศ.3008 แล้วเลี้ยวผ่านวัดโคกตะเคียน ไปยังถนนทางหลวงชนบทสาย นศ.3027 เลียบแนวชายหาดอีกครั้ง ผ่านวัดทางขึ้น พิพิธภัณฑ์หาดทรายแก้ว ตรงบริเวณนี้ได้ออกแบบเป็นสะพานข้ามคลองบ่อนนท์ แล้วไปสิ้นสุดแนวเส้นทางเชื่อมต่อกับ ทล.401 บริเวณ กม.ที่ 271คำพูดจาก สล็อตทดลองเล่นฟรี

โดยรูปแบบทั่วไปของโครงการออกแบบเป็นถนนขนาด 2 ช่องจราจร ความกว้างเขตทาง 6-15 เมตร ช่องจราจรกว้างช่องละ 3 เมตร มีทั้งถนนแบบที่มีไหล่ทาง กว้างข้างละ 1.5 เมตร และถนนแบบไม่มีไหล่ทาง แนวสายทางส่วนใหญ่อยู่บนแนวถนนเดิม เพื่อลดผลกระทบด้านการขออุทิศที่ดินของประชาชนในพื้นที่ให้น้อยที่สุด

รวมถึงยังได้ดำเนินการออกแบบด้านภูมิสถาปัตยกรรม บริเวณคลองหินและบริเวณคลองกลาย เพิ่มศักยภาพของพื้นที่ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีแนวคิดการออกแบบให้สอดคล้องกับบริบทพื้นที่ ส่งเสริมอัตลักษณ์ของท้องถิ่นสามารถเชื่อมต่อกิจกรรมด้านการท่องเที่ยว อีกทั้งยังให้ความสำคัญกับการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมควบคู่กันไปด้วย

นอกจากนี้ ทชคำพูดจาก สูตรสล็อต pg. ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชน โดยกลุ่มเป้าหมายประกอบด้วย หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ผู้นำชุมชน ผู้แทนกลุ่มต่าง ๆ และประชาชนในพื้นที่ เพื่อให้มีความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการฯ ความเป็นมา ลักษณะโครงการ ขั้นตอนการดำเนินงาน ขอบเขตการศึกษา

พร้อมทั้งได้ตอบข้อซักถาม แลกเปลี่ยนความคิดเห็นจากผู้ที่เข้าร่วมประชุม เพื่อให้การดำเนินงานสอดคล้องกับความต้องการของประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุด โดยมีการจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นของประชาชนไปแล้ว จำนวน 4 ครั้ง ณ อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งประชาชนส่วนใหญ่เห็นด้วยถึงแนวทางในการพัฒนาถนนสายดังกล่าว

พาณิชย์ จับมือ ก.ล.ต. ปรับวิธีการซื้อหุ้น การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ของนิติบุคคล

คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์ โดย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้ร่วมมือกับสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (สำนักงาน ก.ล.ต.) ดำเนินการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2565 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษา และมีผลบังคับใช้แล้วตั้งแต่วันที่ 11 เมษายน 2565 ที่ผ่านมา”

“การแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการว่าด้วยการซื้อหุ้นคืน การจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน และการตัดหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัท พ.ศคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง. 2544 ครั้งนี้ มีประเด็นสำคัญ ดังนี้

  1. แก้ไขเพิ่มเติมรายการเกี่ยวกับการซื้อหุ้นคืน มติที่ใช้ในการซื้อหุ้นคืนและการแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืน และการเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับการแก้ไขหรือยกเลิกการซื้อหุ้นคืน เพื่อให้ผู้ที่เกี่ยวข้องและสาธารณชนทราบข้อมูลครบถ้วน สมบูรณ์ขึ้น
  2. กำหนดให้กรรมการมีอำนาจในการอนุมัติการซื้อหุ้นคืนที่มีจำนวนไม่เกินร้อยละ 10 ของจำนวนหุ้นที่จำหน่ายได้ทั้งหมดได้ หากมีข้อบังคับกำหนดไว้
  3. ปรับปรุงถ้อยคำเกี่ยวกับวิธีการซื้อหุ้นคืนและวิธีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนในกรณีหุ้นที่เป็นหลักทรัพย์จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เพื่อให้สอดคล้องกับระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
  4. ลดระยะเวลาการซื้อหุ้นคืนครั้งใหม่จาก 1 ปี เป็น 6 เดือน และลดระยะเวลาการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืนของบริษัทจาก 6 เดือน เป็น 3 เดือน ทำให้บริษัทสามารถดำเนินการได้เร็วขึ้น
  5. เพิ่มเติมวิธีการจำหน่ายหุ้นที่ซื้อคืน ให้สามารถจำหน่ายหุ้นให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม กรรมการหรือพนักงานของบริษัท (ESOP)

ทั้งนี้ การแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงฯ ดังกล่าว มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อให้สอดคล้องกับแนววิถีการประกอบธุรกิจที่มีการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ทำให้บริษัทสามารถบริหารสภาพคล่องทางการเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตลอดจน เป็นการคุ้มครองผู้ถือหุ้นและผู้ที่เกี่ยวข้องมากขึ้น อำนวยความสะดวก และเป็นประโยชน์ต่อการประกอบธุรกิจของบริษัทในภาพรวม สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กลุ่มพัฒนากฎหมาย 1 สำนักกฎหมาย กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร. 0-2547-4471 e-Mail : [email protected] สายด่วน 1570 และ www.dbd.go.th

SMEยุทธวิธีเศรษฐีใหม่ – 4 ปัจจัยต่างชาติ Wowไทย

ไทยเปิดประเทศพร้อมกับเปิดให้นักลงทุนต่างชาติเข้ามาลงทุนทำธุรกิจกับคนไทย โดยเฉพาะกับ “สตาร์ทอัพสัญชาติไทย” ที่ผู้ประกอบการในกลุ่มนี้มีอยู่จำนวนไม่ใช่น้อยที่เป็น เอสเอ็มอี” ซึ่งจำเป็นที่จะต้องได้รับการส่งเสริมและสนับสนุนอย่างจริงจังเพื่อเป็นอีกหนึ่งกลไกที่สำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในเวลานี้ ส่วนปัจจัยอะไรบ้างที่ทำให้ประเทศไทยเป็นที่สนใจของนักลงทุนต่างชาติ สำหรับเรื่องนี้วันนี้คอลัมน์นี้มีข้อมูลนำมาฝากกัน…คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ทั้งนี้ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) ได้เปิดเผยผลสำรวจถึง “ปัจจัยที่ดึงดูดใจของไทย” ที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจอยากที่จะเข้ามาทำธุรกิจในประเทศไทยว่า ประกอบไปด้วย 4 ข้อสำคัญ ดังนี้ 1.อยู่สบายและมีต้นทุนธุรกิจไม่สูง เช่น พื้นที่สำนักงานทำเลดี ๆ ในกรุงเทพฯ ยังมีราคาไม่สูงมากเมื่อเทียบกับเมืองชั้นนำอื่น ๆ ในภูมิภาคนี้ อาทิ คิดเป็น 50% ของสำนักงานในเมืองโฮจิมินห์ซิตี้ หรือมีค่าใช้จ่ายราว 40% ของสำนักงานในสิงคโปร์ ในขณะที่ค่าแรงในไทยยังจัดอยู่ในเกณฑ์ที่สมเหตุสมผลกับแรงงานทักษะสูงและอัตราเงินเฟ้อ รวมไปถึงประเทศไทยมีเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 2 ในอาเซียน โดยมีฐานผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อรวมกว่า 246.11 พันล้านดอลลาร์สหรัฐอีกด้วย 2.ไทยมีความสามารถด้านห่วงโซ่ ทั้งห่วงโซ่อุปทานและห่วงโซ่มูลค่าระดับโลก โดยไทยเป็นประเทศที่ร่ำรวยด้วยผลผลิตทางภาคการเกษตรติดอันดับ 1 ใน 3 ของอาเซียน อีกทั้งเป็นผู้ส่งออกอาหารและสินค้าเกษตรรายใหญ่ที่สุดของโลก เช่น ข้าวและยางธรรมชาติ นอกจากนั้น ประเทศไทยยังมีบริษัทอาหารทะเลชั้นนำของโลก ซึ่งช่วยเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันในตลาดโลกให้กับธุรกิจต่าง ๆ ได้อย่างดี 3.เอกชนไทยมีการลงทุนในการวิจัยและพัฒนาสูง โดยผลการจัดอันดับดัชนีนวัตกรรมโลก (GII) ไทยมีสัดส่วนการลงทุนเรื่องนี้เป็นอันดับ 1 ติดต่อกันถึงสองปีซ้อน (2563-2564) สะท้อนว่าภาคเอกชนขนาดใหญ่ของไทยมีศักยภาพและความพร้อมเป็นอย่างมาก ที่ภาคธุรกิจต่าง ๆ จากต่างประเทศสามารถเข้ามาลงทุนเพื่อมุ่งเน้นการเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจได้เป็นอย่างดี และสุดท้าย 4.ไทยมีการสนับสนุนส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพต่อเนื่อง ที่ถือเป็นอีกหปัจจัยทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจอยากลงทุนกับประเทศไทย และนี่เป็น “4 ปัจจัยสำคัญ” ที่ทำให้นักลงทุนต่างชาติสนใจอยากมาลงทุน ซึ่งข้อมูลนี้น่าจะเป็นประโยชน์กับ “เอสเอ็มอีไทย” ได้ไม่มากก็น้อย.ศิริโรจน์ ศิริแพทย์ [email protected]คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

วาระแห่งชาติ ‘ปัญหาหนี้นอกระบบ’ แก้อย่างไรก็ไม่มีวันจบ

ปัญหาของหนี้นอกระบบ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมานาน และยังไม่ได้รับการแก้ไขปัญหาอย่างจริงจังและเกิดผล ไม่ว่าจะกี่รัฐบาลพยายามเข้าแก้ไขปัญหาระหว่างเจ้าหนี้และลูกหนี้ แต่สุดท้ายก็ยังคว้าน้ำเหลว ไม่อาจทำให้ปัญหาที่เกิดขึ้นหมดไปได้ ซึ่งการแก้ไขปัญหาหนี้ได้ดีที่สุด คงหนีไม่พ้นการเพิ่มรายได้ แต่จะทำอย่างไร คงเป็นโจทย์ให้รัฐบาลเศรษฐาต่อไป

ทางด้านธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หรือแบงก์ชาติ “นายปิติ ดิษยทัต” ผู้ช่วยผู้ว่าการ สายนโยบายการเงิน ธปท. กล่าวถึงกรณีที่รัฐบาลมีมาตรการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบและหนี้ในระบบ และยกให้แก้หนี้นอกระบบเป็นวาระแห่งชาตินั้น

ในส่วนของ ธปท. การแก้ไขปัญหาหนี้ภาพรวมช่วงที่ผ่านมามีการแลกเปลี่ยนความเห็นและหารือกับกระทรวงการคลังเป็นปกติ ทั้งนี้การแก้ไขปัญหาหนี้ต่างๆ ขึ้นอยู่กับนโยบายภาครัฐในระยะข้างหน้าว่าจะเป็นอย่างไร และว่าอะไรเหมาะสมที่สุด แต่ในเรื่องนี้ ธปท. จะมีส่วนช่วยกับนโยบายหลังจากที่มาตรการได้ออกมาแล้วคำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

ขณะที่ “ศูนย์วิจัยกสิกรไทย” ระบุว่า ในการแถลงข่าวแนวทางการแก้หนี้นอกระบบ เมื่อวันที่ 28 พ.ย. 2566 รัฐบาลได้มีการประกาศให้ “การแก้ไขหนี้นอกระบบ” เป็นวาระชาติ โดยมีการประเมินว่า หนี้นอกระบบของไทยอาจมีมูลค่าไม่ต่ำกว่า 50,000 ล้านบาท ซึ่งในการแก้หนี้นอกระบบนั้น ภาครัฐจะมีการปรับกระบวนการทำงานของหลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำฐานข้อมูลกลางและระบบที่สามารถติดตามผลได้ รวมถึงจะมีการใช้โครงการสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐเข้ามาเสริมสภาพคล่องให้กับลูกหนี้

ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า ปัญหาหนี้นอกระบบเป็นภาพสะท้อนของปมปัญหาที่ซับซ้อนทางด้านสังคม คุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจของภาคครัวเรือน เพราะโดยทั่วไป ลูกหนี้ที่มีการกู้ยืมจากแหล่งเงินนอกระบบนั้น มักจะถูกคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงกว่า 15% ที่กฎหมายกำหนดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654 และอาจต้องเผชิญกับปัญหาความรุนแรงจากการทวงหนี้ของเจ้าหนี้

ดังนั้น หากมองจากมุมของลูกหนี้แล้ว การกู้ยืมนอกระบบน่าจะเป็นทางเลือกสุดท้ายในการหมุนสภาพคล่อง หลังจากที่ลูกหนี้ได้พยายามใช้วิธีอื่นๆ มาแล้ว

เป้าหมายสำคัญของการแก้ปัญหาหนี้นอกระบบ คือ การทำให้หนี้นอกระบบกลับเข้ามาอยู่ในระบบ ซึ่งเมื่อสามารถช่วยประชาชนกลุ่มที่พึ่งพาหนี้นอกระบบ ให้สามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้ดีขึ้นแล้ว ผลได้ที่ชัดเจนที่สุดที่ลูกหนี้จะได้รับ ก็น่าจะเป็น ภาระดอกเบี้ยที่ลดลง ซึ่งก็จะทำให้ครัวเรือนปลดภาระหนี้ก้อนนั้นได้เร็วขึ้น

ทั้งนี้ หากย้อนกลับไปทบทวน “มาตรการแก้ปัญหาหนี้ครัวเรือนอย่างยั่งยืน” ของ ธปท. ที่มีการเปิดเผยออกมาก่อนหน้านี้ ก็ได้มีการเตรียมหลักเกณฑ์เพื่อดูแลและช่วยในเรื่องความสามารถในการชำระหนี้ของกลุ่มลูกหนี้นอกระบบด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะหลักเกณฑ์ Risk-based pricing (RBP) สำหรับสินเชื่อส่วนบุคคลที่ไม่มีหลักประกัน และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ที่จะเริ่มเปิดรับผู้สมัครเข้าร่วมทดสอบใน Sandbox ในช่วงไตรมาสที่ 2/2567

โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่า การใช้หลักเกณฑ์ RBP สำหรับสินเชื่อทั้ง 2 ประเภท จะช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับผู้ปล่อยกู้ในการกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้เป็นไปตามความเสี่ยงของลูกหนี้ ซึ่งหากในอนาคตมีผู้ประกอบการที่ผ่านเกณฑ์การทดสอบออกจาก Sandbox ได้มากขึ้น ก็น่าจะช่วยเสริมโอกาสให้ลูกหนี้นอกระบบสามารถเข้าถึงสินเชื่อในระบบได้เพิ่มมากขึ้น

ขณะที่ ประเด็นสำคัญของแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบของภาครัฐ จะอยู่ที่กระบวนการตรวจสอบและยืนยันสถานะของทั้งเจ้าหนี้และลูกหนี้ รวมไปถึงการจูงใจให้เจ้าหนี้มาร่วมแก้ปัญหาให้กับลูกหนี้ โดยหากการติดตามเจ้าหนี้มีความล่าช้า ก็อาจต้องมีการพิจารณาต่อว่าจะดำเนินการเพิ่มเติมอย่างไร โดยเฉพาะในประเด็นการปล่อยสินเชื่อของสถาบันการเงินเฉพาะกิจ เพื่อนำไปปิดหนี้นอกระบบ แต่หากกระบวนการสามารถเดินหน้าต่อได้ ก็จะทำให้ระดับหนี้ครัวเรือนในระบบปรับเพิ่มขึ้นตามยอดการปล่อยสินเชื่อในส่วนดังกล่าว

การแก้ไขปัญหาหนี้สินของครัวเรือนให้ได้อย่างยั่งยืน คงต้องย้อนกลับไปดูแลปัญหาที่ต้นตอในระดับครัวเรือน โดยเฉพาะในด้านรายได้ ความรู้และวินัยทางการเงิน รวมถึงคงต้องดำเนินการเพิ่มเติมในอีกหลายๆ ส่วน โดยเฉพาะหนี้สินภาคครัวเรือนที่อยู่ในระบบ

“แต่อย่าลืมว่าบางปัญหาของหนี้นอกระบบ อาจไม่ได้อยู่ที่เจ้าหนี้เสมอไป ถ้ามองอีกมุมลูกหนี้ ก็ยากที่จะอยากเข้ามาแก้ ถึงแม้จะมีสินเชื่อในระบบจากธนาคารเพื่อนำไปปิดหนี้นอกระบบ แต่สุดท้ายลูกหนี้ก็วนกลับไปหาหนี้นอกระบบด้วยอยู่ดี และคงกลับไปทำแบบเดิมซ้ำๆ ถ้าทุกวันนี้กระบวนการขอสินเชื่อจากธนาคารยังคงยุ่งยาก เอกสารเยอะ ไม่สามารถเคาะประตูบ้านเพื่อขอยืมเงินได้ในทันที ก็ต้องบอกว่าหนี้ในระบบก็ยังแพ้หนี้นอกระบบอยู่ดี!”คำพูดจาก สล็อตเว็บตรง

(ที่มาข้อมูล : ธปท., ศูนย์วิจัยกสิกรไทย)